การรอคอย กับ ความว่างเปล่า
บนยอดสูงสุดของภูเขาลูกนั้นจะมีทิวทัศน์เป็นแบบไหนกันนะ?
มันต้องสวยงามมากแน่ๆเลยล่ะ คงจะได้เห็นพระจันทร์ดวงโตๆ เห็นดวงดาวอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อมมือ
ว่ากันว่ามีชายคนนึงยืนอยู่บนยอดอันสูงเสียดฟ้าของภูเขาลูกนี้ เค้าเป็นคนแบบไหนกันนะ ถึงได้หลงไหลในดวงดาวจนต้องไปยืนเฝ้ามองทุกวันฉันจะขึ้นไปหาเค้า!!!
ฉันตัดสินใจปีนขึ้นไปบนภูเขา หวังเพียงเพื่อจะได้พบกับเค้าคนนั้น และขอที่ว่างๆบนยอดเขาให้ฉันได้ยืนชมวิวอยู่เคียงข้าง
แต่ดูท่ามันจะไม่ง่ายเลย มีแต่หน้าผาเต็มไปหมด แต่ฉันก็ไม่ยอมแพ้หรอก!!!
"ว้าว..... มาถึงจนได้ เหนื่อยชะมัดเลย บาดแผลก็เต็มตัว หิวก็หิว ร้อนก็ร้อน"แต่ไม่เป็นไร ฉันพบเค้าคนนั้นแล้วล่ะ อยู่ข้างหน้านี่เอง เดินไปอีก 50 เมตรก็ได้คุยกันแล้ว จะรออะไรอีกล่ะ!!!
"สวัสดี เธอชื่อะไรเหรอ ฉันขอยืนชมวิวด้วยคนได้มั้ย" ฉันถาม
"ตามใจ"
นั่นเป็นเพียงคำพูดเดียวที่เค้ามีให้แก่ฉัน
เวลาผ่านไป 1 สัปดาห์ เค้าก็ยังคงยืนแหงนหน้ามองดวงดาวอยู่อย่างนั้น โดยที่ไม่เคยหันมามองหรือพูดคุยกับฉันเลย ถึงแม้ฉันจะชวนเค้าคุยอยู่แทบจะตลอดเวลา แต่ฉันก็ได้แต่พูดคนเดียวเหมือนคนบ้า
"นี่... ไม่เมื่อยคอเหรอ ให้ฉันนวดให้มั้ย?"
"ตามใจ..."
เวลาผ่านไป 2 สัปดาห์ เค้าก็ยังเหมือนเดิม แต่ฉันก็ยังคุยกับเค้าต่อไป แม้เค้าจะไม่คุยตอบ
"นี่.... หิวน้ำมั้ย ฉันจะหาน้ำมาให้ดื่ม"
"ก็ตามใจสิ.."
เวลาผ่านไป 3 สัปดาห์ เค้าก็ยังเหมือนเดิม
"นี่... ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ ทำไมไม่หันหน้ามามองกันบ้างเลย มองแต่ดวงดาวอยู่ได้ ทั้งที่รู้อยู่ว่าดาวไม่มีวันตกลงมาอยู่ในมือเธอ"
"เธอเป็นอะไรรึเปล่า"
"เปล่า"
เวลาผ่านไป 1 เดือน ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ฉันจึงเดินถอยออกมาจากเค้า 50 เมตร ที่เดิมที่ฉันเริ่มมองเห็นเค้าเมื่อมาถึงยอดสูงสุด โดยที่ฉันไม่ทักทายเค้าเหมือนเคยแล้ว เพราะเกรงว่าจะรำคาญ
ฉันจะขอยืนมองเค้าอยู่ตรงนี้โดยไม่ห่างและไม่เข้าใกล้
ฉันเพิ่งจะรู้นะว่า ฉัน...ก็ได้แต่เป็นฝ่ายวิ่งตามเค้าอยู่ตลอดเวลา
ถึงจะเจ็บปวด ถึงจะเคียดแค้นและชิงชังกับสภาพแบบนี้ก็ตามที แต่ฉันก็จะยังคงยืนอยู่ต่อไป
ทำไมกันนะ
ทั้งที่ฉันอุตส่าห์พยายามฝ่าฟันอุปสรรคมาถึงที่นี่ได้แล้ว ได้เห็นทิวทัศน์บนจุดสูงสุดที่อยากจะเห็น แต่แล้วฉันก็ค้นพบว่าสิ่งที่ฉันพยายามมาทั้งหมดก็เพื่อสิ่งนี้ ซึ่งมันก็คือ ความว่างเปล่า นั่นเอง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมยืนอยู่ตรงนี้มานานแล้ว ก็อยู่คนเดียวลำพังและคิดว่าคงจะยืนอยู่ลำพังอย่างนี้ตลอดไป เพราะผมไม่คิดว่าใครจะบ้าเหมือนผม บ้าที่พยายามจะปีนป่ายขึ้นมาให้ถึงยอดของภูเขาหฤโหดลูกนี้
แต่อยู่มาวันนึง ผมก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนนึงร้องเรียกผม ผมก็แปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้หันหน้าไปมองเธอ เพราะคิดว่าเธอคงเสียสติแน่ๆที่ปีนขึ้นมาถึงบนนี้ และจะมาเบียดเบียนที่ยืนของผมด้วย ผมไม่ชอบเธอ
1 สัปดาห์ผ่านไป เธอมานวดต้นคอให้ผม มันทำให้ผมรู้สึกสบายขึ้นเยอะ แต่ก็ไมได้ใส่ใจอะไร เพราะผมไม่ชอบเธอ
ผมยังคงแหงนหน้ามองดวงดาวอันสวยงามอย่างตั้งใจ ผมก็แค่หวังว่าวันนึง ดาวดวงนั้นจะเห็นความพยายามและทุ่มเทของผม แล้วลดตัวลงมาคุยกับผมได้บ้าง
2 สัปดาห์ผ่านไป ผู้หญิงคนนั้นหาน้ำมาให้ผมดื่ม ผมก็ดีใจนะอยากจะขอบคุณเธอ แต่ก็ไม่ได้หันไปคุยกับเธอเลย เพราะเกรงว่าถ้าผมหันไปผมก็จะคลาดสายตาจากดวงดาวอันเป็นที่รัก ผมจึงปล่อยเธอไว้อย่างนั้น
เธออยากทำอะไรผมก็ไม่เคยว่า เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ผม ผมไม่ได้เป็นอะไรกับเธอ
จนกระทั่ง 3 สัปดาห์ผ่านไป เธอพูดกับผบว่า
"นี่... ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ ทำไมไม่หันหน้ามามองกันบ้างเลย มองแต่ดวงดาวอยู่ได้ ทั้งที่รู้อยู่ว่าดาวไม่มีวันตกลงมาอยู่ในมือเธอ"
ช่างเป็นคำพูดที่ทิ่มแทงหัวใจผมจริงๆ ผมก็รู้ ไม่ใช่ว่าไม่รู้ ถึงผมจะไม่ค่อยชอบเธอแต่ก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เธอพูดน่ะถูกแล้ว ผมไม่มีทางคว้าดวงดาวมาไว้ในอ้อมกอดได้เลย แต่ผมก็ยังอยากที่จะมองดวงดาวต่อไปเรื่อยๆ
แม้จะเจ็บปวดกับการแหงนหน้า ทรมานกับความเย็นชา แต่ผมก็เลือกที่จะอยู่แบบนี้
1 เดือนผ่านไป ผมไม่ได้ยินเสียงเธออีกแล้ว เธอหายตัวไปแล้วหรือ?
หรือว่าลงเขากลับบ้านไปแล้ว ผมไม่อยากละสายตาจากดวงดาวไป จึงไม่ได้หันไปมองหรือตามหาเธอ
เวลาล่วงเลยไปอีก 2 สัปดาห์ ผมเริ่มรู้สึกว่าบางอย่างขาดหายไป ผมเคยได้ยินเสียงเธอทุกวัน แต่บัดนี้มันไม่มีอีกแล้ว เธอหายไปไหน?
แปลกจริง... ทั้งที่ผมรำคาญเธอ ทั้งๆที่ผมไม่ชอบเธอแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับไม่อยากให้หายไป
ผมตัดสินใจหันไปมองด้านหลัง ผมก็พบว่าเธอยืนมองผมอยู่อย่างไม่ละสายตาห่างจากจุดที่ผมยืนอยู่ 50 เมตร
"เธอยังไม่ไปจริงๆด้วย!!!" ผมอุทาน
ผมดีใจทำไมเนี่ย...
"เธอยืนอยู่ตรงนั้นตลอดเลยเหรอ"
"ใช่"
"ทำไม"
"ฉันเชื่อมั่นว่าถ้ายืนรอคุณอยู่ตรงนี้ ซักวันคุณก็จะหันหลังกลับแล้วเดินตรงมาหาฉัน เราจะลงจากเขาลูกนี้ไปด้วยกัน"
"ผมไม่มีค่าพอให้เชื่อมั่นหรอก ทำไมต้องรอผมด้วย ทำไมคุณถึงเชื่อมั่นในตัวผม มันเป็นไปไม่ได้หรอก"
"ทำไมน่ะเหรอ ก็เหมือนกับที่คุณเชื่อมั่นในดวงดาวยังไงล่ะ"
คำพูดนี้ทำให้ผมถึงกับชา ผมอึ้งไปชั่วครู่และบอกกับเธอว่า
"อยากรอก็รอไปเถอะ ผมไม่ว่าหรอก"
แล้วผมก็หันกลับมาแหงนหน้ามองดวงดาวเช่นเดิม ผมไม่รู้หรอกว่าเธอเป็นยังไงบ้างในตอนนี้ ผมรู้แต่ว่าผมจะยังมั่นคงที่จะรอดวงดาวตลอดไป แม้จะรู้ว่าสิ่งที่ผมพยายามไขว่คว้านั้น มันก็คือ ความว่างเปล่า นั่นเอง
บนยอดสูงสุดของภูเขาลูกนั้นจะมีทิวทัศน์เป็นแบบไหนกันนะ?
มันต้องสวยงามมากแน่ๆเลยล่ะ คงจะได้เห็นพระจันทร์ดวงโตๆ เห็นดวงดาวอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อมมือ
ว่ากันว่ามีชายคนนึงยืนอยู่บนยอดอันสูงเสียดฟ้าของภูเขาลูกนี้ เค้าเป็นคนแบบไหนกันนะ ถึงได้หลงไหลในดวงดาวจนต้องไปยืนเฝ้ามองทุกวันฉันจะขึ้นไปหาเค้า!!!
ฉันตัดสินใจปีนขึ้นไปบนภูเขา หวังเพียงเพื่อจะได้พบกับเค้าคนนั้น และขอที่ว่างๆบนยอดเขาให้ฉันได้ยืนชมวิวอยู่เคียงข้าง
แต่ดูท่ามันจะไม่ง่ายเลย มีแต่หน้าผาเต็มไปหมด แต่ฉันก็ไม่ยอมแพ้หรอก!!!
"ว้าว..... มาถึงจนได้ เหนื่อยชะมัดเลย บาดแผลก็เต็มตัว หิวก็หิว ร้อนก็ร้อน"แต่ไม่เป็นไร ฉันพบเค้าคนนั้นแล้วล่ะ อยู่ข้างหน้านี่เอง เดินไปอีก 50 เมตรก็ได้คุยกันแล้ว จะรออะไรอีกล่ะ!!!
"สวัสดี เธอชื่อะไรเหรอ ฉันขอยืนชมวิวด้วยคนได้มั้ย" ฉันถาม
"ตามใจ"
นั่นเป็นเพียงคำพูดเดียวที่เค้ามีให้แก่ฉัน
เวลาผ่านไป 1 สัปดาห์ เค้าก็ยังคงยืนแหงนหน้ามองดวงดาวอยู่อย่างนั้น โดยที่ไม่เคยหันมามองหรือพูดคุยกับฉันเลย ถึงแม้ฉันจะชวนเค้าคุยอยู่แทบจะตลอดเวลา แต่ฉันก็ได้แต่พูดคนเดียวเหมือนคนบ้า
"นี่... ไม่เมื่อยคอเหรอ ให้ฉันนวดให้มั้ย?"
"ตามใจ..."
เวลาผ่านไป 2 สัปดาห์ เค้าก็ยังเหมือนเดิม แต่ฉันก็ยังคุยกับเค้าต่อไป แม้เค้าจะไม่คุยตอบ
"นี่.... หิวน้ำมั้ย ฉันจะหาน้ำมาให้ดื่ม"
"ก็ตามใจสิ.."
เวลาผ่านไป 3 สัปดาห์ เค้าก็ยังเหมือนเดิม
"นี่... ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ ทำไมไม่หันหน้ามามองกันบ้างเลย มองแต่ดวงดาวอยู่ได้ ทั้งที่รู้อยู่ว่าดาวไม่มีวันตกลงมาอยู่ในมือเธอ"
"เธอเป็นอะไรรึเปล่า"
"เปล่า"
เวลาผ่านไป 1 เดือน ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ฉันจึงเดินถอยออกมาจากเค้า 50 เมตร ที่เดิมที่ฉันเริ่มมองเห็นเค้าเมื่อมาถึงยอดสูงสุด โดยที่ฉันไม่ทักทายเค้าเหมือนเคยแล้ว เพราะเกรงว่าจะรำคาญ
ฉันจะขอยืนมองเค้าอยู่ตรงนี้โดยไม่ห่างและไม่เข้าใกล้
ฉันเพิ่งจะรู้นะว่า ฉัน...ก็ได้แต่เป็นฝ่ายวิ่งตามเค้าอยู่ตลอดเวลา
ถึงจะเจ็บปวด ถึงจะเคียดแค้นและชิงชังกับสภาพแบบนี้ก็ตามที แต่ฉันก็จะยังคงยืนอยู่ต่อไป
ทำไมกันนะ
ทั้งที่ฉันอุตส่าห์พยายามฝ่าฟันอุปสรรคมาถึงที่นี่ได้แล้ว ได้เห็นทิวทัศน์บนจุดสูงสุดที่อยากจะเห็น แต่แล้วฉันก็ค้นพบว่าสิ่งที่ฉันพยายามมาทั้งหมดก็เพื่อสิ่งนี้ ซึ่งมันก็คือ ความว่างเปล่า นั่นเอง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมยืนอยู่ตรงนี้มานานแล้ว ก็อยู่คนเดียวลำพังและคิดว่าคงจะยืนอยู่ลำพังอย่างนี้ตลอดไป เพราะผมไม่คิดว่าใครจะบ้าเหมือนผม บ้าที่พยายามจะปีนป่ายขึ้นมาให้ถึงยอดของภูเขาหฤโหดลูกนี้
แต่อยู่มาวันนึง ผมก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนนึงร้องเรียกผม ผมก็แปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้หันหน้าไปมองเธอ เพราะคิดว่าเธอคงเสียสติแน่ๆที่ปีนขึ้นมาถึงบนนี้ และจะมาเบียดเบียนที่ยืนของผมด้วย ผมไม่ชอบเธอ
1 สัปดาห์ผ่านไป เธอมานวดต้นคอให้ผม มันทำให้ผมรู้สึกสบายขึ้นเยอะ แต่ก็ไมได้ใส่ใจอะไร เพราะผมไม่ชอบเธอ
ผมยังคงแหงนหน้ามองดวงดาวอันสวยงามอย่างตั้งใจ ผมก็แค่หวังว่าวันนึง ดาวดวงนั้นจะเห็นความพยายามและทุ่มเทของผม แล้วลดตัวลงมาคุยกับผมได้บ้าง
2 สัปดาห์ผ่านไป ผู้หญิงคนนั้นหาน้ำมาให้ผมดื่ม ผมก็ดีใจนะอยากจะขอบคุณเธอ แต่ก็ไม่ได้หันไปคุยกับเธอเลย เพราะเกรงว่าถ้าผมหันไปผมก็จะคลาดสายตาจากดวงดาวอันเป็นที่รัก ผมจึงปล่อยเธอไว้อย่างนั้น
เธออยากทำอะไรผมก็ไม่เคยว่า เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ผม ผมไม่ได้เป็นอะไรกับเธอ
จนกระทั่ง 3 สัปดาห์ผ่านไป เธอพูดกับผบว่า
"นี่... ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ ทำไมไม่หันหน้ามามองกันบ้างเลย มองแต่ดวงดาวอยู่ได้ ทั้งที่รู้อยู่ว่าดาวไม่มีวันตกลงมาอยู่ในมือเธอ"
ช่างเป็นคำพูดที่ทิ่มแทงหัวใจผมจริงๆ ผมก็รู้ ไม่ใช่ว่าไม่รู้ ถึงผมจะไม่ค่อยชอบเธอแต่ก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เธอพูดน่ะถูกแล้ว ผมไม่มีทางคว้าดวงดาวมาไว้ในอ้อมกอดได้เลย แต่ผมก็ยังอยากที่จะมองดวงดาวต่อไปเรื่อยๆ
แม้จะเจ็บปวดกับการแหงนหน้า ทรมานกับความเย็นชา แต่ผมก็เลือกที่จะอยู่แบบนี้
1 เดือนผ่านไป ผมไม่ได้ยินเสียงเธออีกแล้ว เธอหายตัวไปแล้วหรือ?
หรือว่าลงเขากลับบ้านไปแล้ว ผมไม่อยากละสายตาจากดวงดาวไป จึงไม่ได้หันไปมองหรือตามหาเธอ
เวลาล่วงเลยไปอีก 2 สัปดาห์ ผมเริ่มรู้สึกว่าบางอย่างขาดหายไป ผมเคยได้ยินเสียงเธอทุกวัน แต่บัดนี้มันไม่มีอีกแล้ว เธอหายไปไหน?
แปลกจริง... ทั้งที่ผมรำคาญเธอ ทั้งๆที่ผมไม่ชอบเธอแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับไม่อยากให้หายไป
ผมตัดสินใจหันไปมองด้านหลัง ผมก็พบว่าเธอยืนมองผมอยู่อย่างไม่ละสายตาห่างจากจุดที่ผมยืนอยู่ 50 เมตร
"เธอยังไม่ไปจริงๆด้วย!!!" ผมอุทาน
ผมดีใจทำไมเนี่ย...
"เธอยืนอยู่ตรงนั้นตลอดเลยเหรอ"
"ใช่"
"ทำไม"
"ฉันเชื่อมั่นว่าถ้ายืนรอคุณอยู่ตรงนี้ ซักวันคุณก็จะหันหลังกลับแล้วเดินตรงมาหาฉัน เราจะลงจากเขาลูกนี้ไปด้วยกัน"
"ผมไม่มีค่าพอให้เชื่อมั่นหรอก ทำไมต้องรอผมด้วย ทำไมคุณถึงเชื่อมั่นในตัวผม มันเป็นไปไม่ได้หรอก"
"ทำไมน่ะเหรอ ก็เหมือนกับที่คุณเชื่อมั่นในดวงดาวยังไงล่ะ"
คำพูดนี้ทำให้ผมถึงกับชา ผมอึ้งไปชั่วครู่และบอกกับเธอว่า
"อยากรอก็รอไปเถอะ ผมไม่ว่าหรอก"
แล้วผมก็หันกลับมาแหงนหน้ามองดวงดาวเช่นเดิม ผมไม่รู้หรอกว่าเธอเป็นยังไงบ้างในตอนนี้ ผมรู้แต่ว่าผมจะยังมั่นคงที่จะรอดวงดาวตลอดไป แม้จะรู้ว่าสิ่งที่ผมพยายามไขว่คว้านั้น มันก็คือ ความว่างเปล่า นั่นเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น